NC#Holdmedown 8.1


Chapter 8.1
               
เพล้ง!
กล่องสีเหลี่ยมใบใสถูกค้อนปอนด์ทุบทำลายจนกลายเป็นเศษส่วนเล็กๆ กระจายไปตามพื้น หลงเหลือเพียงแต่เศษซากชะตากรรมที่ตนนั้นไม่ได้ก่อขึ้นแต่กลับได้รับอยู่เพียงผู้เดียว
รถถังกอดตัวเองแน่นหลับตาปี๋ เพราะแรงกระแทกจากค้อนปอนด์ของชายหนุ่มที่เขาไม่รู้จักหรือแม้แต่เคยเห็นหน้า ยกค้อนปอนด์แล้วฟาดตู้กระจกลงมาแบบไม่ยั้งแรง เขาคนนั้นไม่ได้สนใจเลยว่าคนด้านในจะได้รับอันตรายหรือไม่แต่อย่างใด
เศษกระจกแตกละเอียด เสียงของผู้กุมชัยชนะร้องกร้าว
“ขึ้นรถ!”
“พี่จะพาผมไปไหน”
พี่...มีไว้เรียกคนสนิท อย่าพูดมาก กูรำคาญ”
ผู้กุมชัยชนะไว้ในมือเพียงแค่ยกเท้าแตะคันเร่งเล็กน้อยแต่รถหรูกลับพุ่งทะยาน มุ่งหน้าสู่ทางออกของสนามแข่งแต่ยังไม่ทันไปได้ไกลก็ต้องหยุดชะงัก
เอี๊ยด!
“ถอยไป!” หนุ่มหล่อราวเทพบุตรเดินลงจากรถ จ้องหน้ากับใครอีกคนที่จงใจเอารถมาขวางด้านหน้าไว้
“ไอ้จากูขอ มึงปล่อยมันไปได้มั้ย กูยอมจ่ายให้อีกเท่าตัว” เบจเดินลงมาจากรถของตัวเองที่ไปขวางด้านหน้า
“กูไม่ให้! คนอย่างกูคำไหนคำนั้น” และคงไม่มีใครยอมให้ในสิ่งที่ตัวเองได้มาไว้ในมือสินะ
คนที่แพ้ทางจำต้องยอมล่าถอยให้กับผู้ชนะในค่ำคืนนี้
รถยนต์คันหรูขับผ่านเข้ามายังอาณาจักร ‘นารานิรันดร์’ ของตนเอง การ์ดชุดดำที่ยืนประจำตามจุดโค้งคำนับให้รถของเจ้านายอายุน้อยของตนอย่างนอบน้อม
“คุณปล่อยผมไปเถอะนะ ผมขอร้อง” รถถังร้องขอโอกาสสุดท้ายแม้จะรู้ว่าคงไม่ได้รับโอกาสนั้น
“กูมั่นใจว่ามึงรับรู้ข้อเสนอนี้มาตั้งแต่ต้น เพราะฉะนั้นมึงไม่มีสิทธิ์ร้องขอ” เขาพูดโดยไม่หันมามองคนข้างๆ แม้แต่น้อย
“ผมกลัวอย่าทำอะไรผมเลย ให้ผมไหว้ก็ได้นะ” เด็กหนุ่มที่เพิ่งพ้นวัยมัธยมปลายมาได้ไม่นานถึงกับเสียงสั่น
“เอาของมึงกองไว้ตรงนั้นแหละ” แล้ว ‘จากัวร์’ ก็ทำเหมือนคนไร้หัวใจอย่างที่เป็นเสมอมา
ชายหนุ่มเดินลงจากรถคันหรูแต่คนในรถกลับกล้วจนตัวสั่น ไม่กล้าแม้แต่จะก้าวลงมาเหยียบพื้นที่ๆ ตนเองไม่เคยย่างกายเข้ามา มันคือที่ไหนก็ไม่รู้แต่ที่เห็นมันมีรถยนต์สุดหรูจอดเรียงรายอยู่เต็มไปหมด
“ลงมา!” น้ำเสียงอันแข็งกร้าวตะโกนสั่ง
“คุณปล่อยผมไปนะครับ ผมยังมีน้องที่ต้องกลับไปดูแล” เด็กหนุ่มที่หวาดกลัวจนตัวสั่น
กูไม่สงสารเด็กร่านแบบมึงหรอก เงียบปากซะ!” เสียงเหยียดหยามจนรถถังรู้สึกว่าใบหน้าของเขามันชาไปหมด
“ผมขอร้องนะครับ” ลองดูอีกสักครั้ง ‘ร้องขอชีวิตเขาอีกครั้ง’
ถอดกางเกงแล้วหันหลัง! คนมันไร้ค่าแค่ยืนหันหลังก็พอ” แต่เขากลับไม่ได้รับโอกาสนั้น ‘ไม่มีสิทธิ์สินะคนอย่างเรา’
แล้วชายร่างสูงก็กระชากเด็กน้อยผู้โชคร้ายไปที่หลังรถยนต์คันหรูที่ตนเองขับมาเมื่อครู่ เด็กชายยืนเอาแขนทั้งสองข้างเกาะที่ท้ายรถร้องไห้จนตัวสั่นระริก
“กูบอกให้มึงถอดกางเกงออกเดี๋ยวนี้! หรือมึงจะสร้างความเดือดร้อนให้ลูกพี่มึงก็เลือกเอา” รถถังที่ยืนตัวสั่นพลางนึกน้อยใจตัวเอง ‘ทำไมต้องเป็นแบบนี้ด้วยวะ พ่อครับแม่ครับช่วยผมด้วย’
“ยอมแล้ว... ฮึก” อดกลั้นไว้ไม่ไหวอีกแล้วจนต้องสะอื้นออกมา ร้องไห้ให้คนที่ไม่แม้แต่จะมองด้วยหางตา
สองมือสั่นๆ ปลดเข็มขัดและกางเกงลงไว้ตรงเข่า ช่วงกลางตัวเปลือยเปล่ายืนหันหน้าเข้าหาหลังรถ มีชายร่างสูงยืนซ้อนอยู่ตรงด้านหลัง ได้ยินเสียงกำลังปลดเข็มแล้วรูดซิปกางเกงเท่านั้น
เฮือก!
“สดนะ ถุงยางกูหมด” เมื่อสิ้นเสียง ความเจ็บปวดราวสายฟ้าฟาดก็แล่นเข้าสู่ร่างบาง จากที่สั่นอยู่ก่อนแล้วตอนนี้เขาแทบจะยืนต่อไปไม่ไหว สองมือไขว่คว้าจับตรงหลังรถไว้แน่น
“โอ๊ยยย...ผมเจ็บ...ฮึก” มันกลั้นไว้ไม่ไหวแล้ว ตัวก็เจ็บ...แต่ใจนี่สิที่มันเจ็บยิ่งกว่า จากัวร์มีชะงักกับท่าทีของคนตรงหน้าที่ร้องลั่น ‘เอ๊ะ! แน่นจังวะ’
“กูว่ามึงน่าจะชอบมากกว่านะ เงียบปากซะ!” ‘จากัวร์’ บีบตรงส่วนสะโพกของคนร่างเล็กไว้แน่น เพราะกลัวแก่นกลางที่ยัดแทบไม่เข้าแถมยังจะหลุดออกมา
“อ๊ะ...อึก...โอ๊ย!” เขาพยายามดันมันเข้าไปในตัวเด็กหนุ่มที่เข้าได้เพียงครึ่ง จากนั้นจึงตัดสินใจชักออกเพียงเล็กน้อยแล้วใช้แรงที่มีสวนกลับเข้าไปช่องทางนั้นอีกครั้ง จนร่างเล็กร้องลั่น ‘โอ๊ย!! ฮือออ’ ด้วยความทรมานแสนสาหัส
“ชอบไม่ใช่เหรอ ดิ้นรนหากันหนิ มึงอยากได้เงินมึงก็ต้องขายสินะ” ยังไม่หยุดถ้อยคำหยามเหยียดเด็กน้อย ที่เขาไม่เคยรู้เลยว่าคนตรงหน้าปวดร้าวเพียงใด จากัวร์ไม่เคยรู้เลยว่าคนตรงหน้าโชคร้ายแค่ไหน
“อะ...อ่ะ...อึก” เด็กน้อยพยามยามกลั้นเสียงไม่ให้ร้องครวญออกไป ‘พี่จะอดทนนะรถบั๊ม’ เจ็บแสนเจ็บ ปวดแสนปวด ทั้งกายทั้งใจมันโดนผู้คนบนโลกบดขยี้จนแหลกเหลวไปหมดแล้ว
“กูกำลังรีบทำให้มันจบๆ ไป อย่าแหกปากของมันเคยๆ ไม่ใช่เหรอวะ” คิดดูสิมันน่าน้อยใจ แม้กระทั่งเวลาของชายคนนี้ยังมีค่ากว่าตัวเขาอีก ‘สมเพชตัวเองฉิบหาย!’
“โอ๊ยยย...คะ...คุณ...ผมเจ็บ” อีกครั้งที่เผลอร้องเพราะเจ็บเจียนตาย แต่เขากลับรุนแรงเป็นเท่าทวี ส่งแรงกระแทกเข้ามาไม่ยั้งจนหน้าท้องรถถังชนกับท้ายรถอยู่หลายที เพราะสู้แรงกระแทกจากผู้ชายด้านหลังไว้ไม่ไหว
“ปล่อยในนะ กลัวเปรอะพื้น” และอีกครั้ง ‘ผมคงสกปรกมากสินะ’ เจ็บฉิบหายเลยใจ ทำไมเจ็บขนาดนี้
“ฮึก...ฮือออออ...อึก” เด็กหนุ่มกับประสบการณ์ครั้งแรกอันแสนเลวร้าย ถึงกลับปล่อยโฮออกมาอย่างไม่อายใคร
“ซี้ดดดดด...อืมมมม...เสร็จละมึงกลับไปได้ และไม่ต้องกลัวเพราะกูไม่ใช้ซ้ำ” จบแล้วสินะ ‘ฝันร้าย’ พรุ่งนี้ก็เช้าแล้วเนอะ ‘ไม่เป็นไรแค่นี้ไม่ตาย’
แล้ว ‘จากัวร์’ ชายใจร้ายก็จัดการรูดซิปใส่เข็มขัดและเดินเข้าไปยังตึกหรู โดยไม่สนใจคนที่โดนกระทำว่าจะเจ็บปวดทรมานแค่ไหน เพียงแค่ขยับตัวของเหลวตรงช่องทางด้านหลังก็ล้นทะลักลงมาที่ต้นขา จนเปรอะปื้อนไหลลงมาถึงกางเกง รถถังก้มมองยังรู้เลยว่ามันมีเลือดไหลปะปนอยู่ในนั้น ‘ดีแล้วเอาเลือดสกปรกออกซะบ้าง’
เด็กหนุ่มผู้โชคร้ายได้แต่ยอมรับชะตากรรมจัดการใส่กางเกงและเข็มขัดจนเรียบร้อย เดินสะโหลสะเหลออกไปจาก ‘นารานิรันดร์’ อาณาจักรแห่งความยิ่งใหญ่นั้นไป รถถังหันไปมองประตูรั้วใหญ่จดจำชื่อตระกูลอันสูงส่งไว้ในใจอีกครั้ง ‘กูจะไม่เหยียบแผ่นดินตรงนี้ตลอดชีวิต’
รถถังที่บอบช้ำทั้งร่างกายและจิตใจเดินเซจนแทบจะล้ม แข้งขามันอ่อนล้าเหมือนหัวใจของเขาที่แหลกสลายไม่มีชิ้นดี ที่ต้องพบเจอกับเหตุการณ์การเลวร้ายที่สุดในชีวิต
เด็กน้อยเหมือนคนไร้สติเดินสะเปะสะปะ ร้องตะโกนแทบขาดใจอยู่กลางถนนในยามที่ท้องฟ้ามืดมิด แม้กระทั่งคืนนี้พระจันทร์ยังหนีเขากลับบ้านไปแล้วเลย
                ‘กูอยากเรียนสูงๆ กูผิดเหรอ!’
            ‘กูจนกูผิดเหรอ ไอ้สัดเอ๊ย!’
            ‘กูอยากให้น้องมีอนาคตดีๆ เหมือนคนอื่น กูผิดใช่มั้ย! ฮึก
            ‘รถบั๊มจะยังรักพี่มั้ย พี่ไม่สะอาดแล้วนะ’
            ‘พ่อครับแม่ครับตอนนี้ไปอยู่ที่ไหน ผมพาน้องไปหาได้มั้ย ผมคิดถึง ฮือออ
                แต่อาณาจักรใหญ่ในย่านนี้ ใช่ว่าจะมีคนน้อยเสียที่ไหน การ์ดชุดดำที่ยืนเฝ้าอยู่หน้าบ้านเห็นเหตุการณ์ที่เด็กหนุ่มเสียสติร้องไห้ตะโกนลั่นไปทั่วท้องถนน การ์ดคนหนึ่งหยิบโทรศัพท์มาบันทึกเหตุการณ์นี้ไว้ จนเด็กหนุ่มเดินหายไปท่ามกลางความมืด
ไม่ใช่ถ่ายเพื่อเอาไปแชร์ลงโซเชียลอะไรทั้งนั้น แต่เพราะนายของพวกเขาศัตรูรอบทิศทาง ไม่รู้ว่าไอ้เด็กที่มาตะโกนอยู่ตรงนี้ถูกใครส่งมาหรือเปล่า
                “ไอ้ถัง ไอ้ถัง...ทางนี้” กระป๋องที่แอบนั่งวินตามมาแอบซุ่มอยู่หน้าปากซอย เพราะตัวเองคงฝ่าฝูงคนชุดดำเข้าไปไม่ได้
                “กระป๋อง” ถังพยายามมองหาตามเสียงก็พบว่าเพื่อนตัวเองกำลังร้องเรียกอยู่ใต้พุ่มไม้
                “มึงเป็นไงบ้างวะ เค้าทำไรมึงมั้ย” กระป๋องเห็นสภาพเพื่อนตัวเอง มองก็รู้แล้วว่ามันแย่ขนาดไหน
                “หึๆ เค้าจะปล่อยให้กูรอดเหรอป๋อง” เด็กน้อยใบหน้าเปื้อนคราบน้ำตายกยิ้มให้เพื่อน
                “โธ่โว๊ย! นี่มันเรื่องเหี้ยไรวะเนี่ย” กระป๋องก็แค่เด็กคนหนึ่งที่ไม่สามารถช่วยเพื่อนตัวเองได้เลย ได้แต่เตะอากาศด้วยความโกรธ
                “ชีวิตเหี้ยๆ กูแม่งโคตรขยะแขยงตัวเองเลย มึงไม่ต้องมาใกล้กูก็ได้นะ...มันสกปรก” รถถังก้าวเท้าถอยหลังออกห่างจากเพื่อนที่ยืนตรงหน้า
                “ถัง...กูรักมึง...กูยังเป็นเพื่อนมึงเสมอ...มึงยังมีกูนะ” กระป๋องคว้าตัวเพื่อนที่บอบช้ำเข้ามากอดไว้แน่น
                “ฮึก...ฮืออออ” สุดท้ายก็ปล่อยโฮออกมาเพราะมันกลั้นอะไรไม่ได้อีกแล้ว “กูเจ็บฉิบหายเลย...ไอ้ป๋อง”
                “กูก็เจ็บไม่แพ้มึงหรอก...ถัง” กระป๋องแม้เป็นเด็กทะลึ่งทะเล้นก็พยายามปลอบเพื่อนจนสุดความสามารถ “กูพามึงกลับบ้านนะ...รถบั๊มคิดถึงมึงแย่แล้วป่านนี้”
                “รถบั๊ม...ฮืออออ” เมื่อได้ยินชื่อ ‘รถบั๊ม’ น้องชายแสนรัก ก็ร้องโฮออกมาอีกครั้งจนได้
                “เฮ้ยถัง...ไม่ร้องแล้ว เข้มแข็งไว้นะมึง” กระป๋องลูบหลังเพื่อนที่ร้องไห้โฮเบาๆ “เอางี้ดิวะคิดในทางที่ดี...มึงก็มีเงินให้รถบั๊มเข้าโรงเรียนตามที่ตั้งใจไว้ไง”
                “ฮึก...กูจะเข้มแข็งนะป๋อง ขอบคุณมึงนะ” เมื่อได้ยินชื่อน้องชายก็เหมือนจะเรียกสติที่มีให้กลับมาอีกครั้ง “กูจะร้องไห้แค่คืนนี้แหละ พรุ่งนี้กูก็ไม่ร้องแล้ว” รถถังพยายามเอามือปาดน้ำตาที่เลอะบนใบหน้า
                “ที่เช็ดหน้านี่คือ...เลิกร้องแล้วใช่ป่ะ” กระป๋องเริ่มแซวเพื่อนตัวเอง
                “อืม...พากูกลับบ้านทีป๋อง” รถถังตอบ
                “คิดถึงน้องมึงล่ะสิ” กระป๋องมันรู้
                “เปล่า...ยุงกัดกูเต็มเลย” โดนขนาดนี้ ‘รถถัง’ ยังเสือกกวนตีนได้อีก
                “ถัง...ไอ้สัด!” กระป๋องคว้าคอเพื่อนมากอดแล้วพาเดิน “ขี่คอกูป่ะ...กูรักมึงนะโว้ยยยย”
                สุดท้ายก็พากันเดินไปได้ไม่เท่าไหร่ ‘ถัง...มึงเดินไม่ไหวแล้วขึ้นหลังกูเถอะ’ กระป๋องร้องบอกเพื่อนและก็ต้องย่อตัวให้เพื่อนรักขี่หลัง พาเดินไปยังป้ายรถเมล์เพื่อรอขึ้นแท็กซี่กลับบ้านเพราะในยามนี้มันดึกมากแล้ว
**********
Twitter @Newpiney

Comments

Popular Posts